รัสเซียยิงอีก “ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก” – บีบีซี รายงานวันที่ 10 มี.ค. ถึงความคืบหน้าหลังกองกำลังรัสเซียระดมโจมตีในพื้นที่ 10 แคว้นทั่วยูเครนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมาว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 9 ราย ขณะเดียวกันทางการรัสเซียเปิดเผยว่าใช้ ขีปนาวุธ “คินชัล” ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงหรือ ไฮเปอร์โซนิกมิสไซล์ ในการโจมตีครั้งใหญ่ในรอบหลายสัปดาห์

นายอิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย แถลงว่า “อาวุธพิสัยไกลที่มีความแม่นยำสูง ทั้งทางอากาศ ทางทะเล และทางบก รวมถึงระบบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงคินซัลโจมตีส่วนสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของยูเครน”

ด้านกองทัพยูเครนซึ่งก่อนหน้านี้ระบุว่าสามารถยิงสกัดขีปนาวุธจากรัสเซียได้อย่างน้อย 34 ลูก รวมถึงทำลาย “โดรนชาเฮด” โดรนพลีชีพติดตั้งระเบิดเพื่อการทิ้งตัวทำลายเป้าหมายของอิหร่านอีก 4 ลำ

พร้อมยอมรับว่าไม่สามารถสกัดกั้นขีปนาวุธคินซัลซึ่งกองกำลังรัสเซียยิงโจมตีอย่างน้อย 6 ลูก และไม่สามารถทำลายอาวุธรุ่นเก่า เช่น ขีปนาวุธต่อต้านเรือเคเอช 22 และขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานเอส 300

ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุจากโฆษกกองทัพอากาศยูเครนว่า “นี่เป็นการโจมตีครั้งใหญ่และเป็นครั้งแรกที่มีขีปนาวุธประเภทต่างๆ มากมาย ซึ่งไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน”

ขณะเดียวกัน บริษัท เอเนอร์โกอะตอม ผู้ประกอบการด้านพลังงานนิวเคลียร์ของยูเครน กล่าวก่อนหน้านี้ว่าการโจมตี โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริฌเฌีย โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ส่งผลให้ระบบจ่ายไฟฟ้าถูกตัดขาดอีกครั้ง

และถือเป็นครั้งที่ 6 นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานเมื่อเดือนก.พ.2565 เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องปั่นไฟดีเซลแทนระบบไฟฟ้าจนสามารถซ่อมแซมและกลับมาเชื่อมต่อระบบได้ในที่สุด

โดยไฟฟ้าเป็นสิ่งจำเป็นในกระบวนการหล่อเย็น และการโจมตีดังกล่าวเพิ่มความเสี่ยงสร้างความเสียหายที่อาจก่อให้เกิดอันตรายและภัยคุกคามรุนแรง ส่งผลให้ทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) ออกมาเรียกร้องให้นานาชาติร่วมกันปกป้องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริฌเฌียอย่างจริงจังอีกครั้ง

 

ติดตามเรื่องราวรอบโลกได้ที่  lotusflowerdance.com